วิธีใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง

วิธีใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง

หน้ากากอนามัยใส่ด้านไหน วิธีใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง เทรนด์ใหม่ของคนเมืองที่ไม่ว่าจะไปไหน อย่างน้อย10 คน ต้องมี 1 คนที่ใส่หน้ากากอนามัย นับว่าเป็นเรื่องดีที่ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพของตนเองมากขึ้น ด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัย การสวมใส่หน้ากากอนามัยเนื่องจากมีสองด้านทำให้เกิดความสงสัยว่าที่ถูกแล้ว การสวมใส่หน้ากากอนามัยจะสวมอย่างไร หรือสวมใส่ทางด้านไหนกันแน่ เราจึงไปหาคำตอบ และได้นำมาสรุปวิธีการสวมใส่ที่ถูกต้องมาให้ได้อ่านกัน

หน้ากากอนามัยมี 2 แบบ ได้แก่ หน้ากากอนามัยทั่วไป ที่เราเห็นคุณหมอใช้กันอยู่ หน้ากากอนามัยแบบนี้ใช้เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคผ่านการไอหรือจาม แต่บริเวณด้านล่างของหน้ากากจะไม่สามารถใช้ป้องกันการได้รับสารปนเปื้อนจากการสูดดมได้ ส่วนหน้ากากอนามัยอีกแบบ คือ หน้ากากอนามัยแบบ N95 มีลักษณะสวมใส่ด้วยการครอบลงไปที่บริเวณปากและจมูกอย่างมิดชิด จึงมีประสิทธิภาพสูงกว่าแบบทั่วไป ช่วยป้องกันเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กมาก ๆ ได้ นิยมใช้ในวงการแพทย์ที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น การป้องกันเชื้อวัณโรค หรือเชื้อแอนแทรกซ์ โดยบุคลากรที่ทำงานเกี่ยวกับสารเคมีร้านแรงต่าง ๆ

สำหรับการใช้งานสำหรับคนทั่วไป สามารถเลือกใช้ได้ทั้ง 2 แบบ ที่สำคัญ คือ ต้องรู้ว่าหน้ากากอนามัยควรใส่ด้านไหน จึงจะถูกต้อง และได้ประโยชน์สูงสุด หน้ากากอนามัยแบบทั่วไปต้องใส่ให้พอดีกับใบหน้า หันด้านที่มีสีเข้มออก ให้ด้านที่มีเส้นลวดไว้ด้านบน หากเป็นแบบที่ไม่มีสี ให้สังเกตรอยพับ เวลาสวมให้รอยพับชี้ลงด้านล่างจึงจะถูกต้อง

ส่วนวิธีสวมใส่หน้ากากอนามัยแบบ N95 ให้ถือหน้ากากอนามัยไว้ในอุ้งมือ แล้วครอบหน้ากากลงที่ปากและจมูก ดึงสายรัดคล้องศีรษะ แล้วดึงลงไปบริเวณใต้ใบหู จากนั้นดึงสายรัดเส้นบนคล้องคล้องไปทางด้านหลังศีรษะอีกที บีบบริเวณเส้นลวดเบา ๆ ให้พอดีกับสันจมูก ให้ทดสอบความพอดีของหน้ากากโดยการใช้มือทั้งสองข้างทาบบริเวณหน้ากาก แล้วให้ลองหายใจเข้าออก หากหน้ากากที่พอดีเวลาหายใจเข้าหน้ากากจะยุบตัว หายใจออกหน้ากากจะพองตัว

แต่ถ้าหน้ากากที่ใช้เปียกจากสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย น้ำมูก ควรเปลี่ยนทันที และไม่ควรนำกลับมาใช้อีก การทิ้งควรนำหน้ากากที่ใช้แล้วใส่ถุงปิดฝาให้มิดชิด หรือทิ้งในถังขยะติดเชื้อ และล้างมือทำความสะอาดให้ดี

แม้หน้ากากอนามัยจะมีประโยชน์ แต่ก็ไม่สามารถป้องกันได้ 100% ถึงจะเป็นหน้ากากอนามัยชนิด N95 ก็ช่วยป้องกันเชื้อโรคได้แค่ 95% เท่านั้น ทางเลือกที่ดีกว่าก็คือ การดูแลตัวเองโดยปฏิบัติตามที่ทางการแนะนำ